
เราเชื่อว่าไม่มีใครที่อยากจะเจ็บป่วยหรอก แต่หลายคนก็อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะด้วยสภาพร่างกายของแต่ละคนที่แข็งแรงมากน้อยไม่เท่ากัน
เรื่อง : ภาดนุ ภาพ : Pixabay
บ่อยครั้งเราจึงได้เห็นคนที่ร่างกายอ่อนแอมักจะเจ็บป่วยง่ายด้วยหลายสาเหตุหลายปัจจัย แล้วจะทำยังไงให้ตัวเองมีร่างกายที่แข็งแรงและไม่เจ็บป่วยง่ายได้บ้างล่ะ อ๊ะ! ลองทำตามเคล็ดลับต่อไปนี้ดูสิ
1.ไม่อยากป่วยรีบลุกขึ้น
ผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในอาการเฉื่อยชา ควรหันมาเริ่มออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้าร่วมโปรแกรมใดๆ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างคำแนะนำสำหรับผู้ที่คิดจะเริ่มต้นออกกำลังกาย
-เริ่มด้วยการเลือกรูปแบบการออกกำลังกายที่คุณชื่นชอบมากที่สุด และมีความหนักในระดับปานกลาง เพราะการเลือกกิจกรรมที่เราชอบ จะทำให้เราอดทนออกกำลังได้นานยิ่งขึ้น
-ค่อยๆ เพิ่มเวลาในการออกกำลังทีละน้อยทุกๆ 2-3 วัน จนกระทั่งร่างกายสามารถออกกำลังได้นานต่อเนื่องครั้งละ 30 นาทีโดยไม่รู้สึกเหนื่อยเกินไป
-เมื่อใช้เวลาออกกำลังครั้งละ 30 นาทีจนอยู่ตัวแล้ว ให้ค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาขึ้นอีก หรือเพิ่มความหนักหน่วงของกิจกรรม หรือทั้งสองอย่าง
-เปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังให้หลากหลาย เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และได้รับประโยชน์หลายๆ ด้าน
-ลองค้นหาวิธีออกกำลังกายรูปแบบใหม่ และให้รางวัลในความพยายามของตัวเอง
2.ออกกำลังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้
จากสถิติแล้ว ผู้ที่ดูแลร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงและกระฉับกระเฉงอยู่เสมอ จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงแม้อายุมากขึ้น เรื่องนี้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคโลราโดแห่งโบลเดอร์ สหรัฐ พบว่า การลดลงของแอนติบอดี้อันเนื่องมาจากอายุ เป็นสัญญาณว่าร่างกายมีภูมิคุ้มกันน้อยลง แต่การออกกำลังกายจะช่วยคงสภาพการตอบสนองของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกัน (T-cell) ได้อย่างเหมาะสม การออกกำลังกายจึงมีความสำคัญสำหรับผู้ที่อยู่ในวัย 50 ปีขึ้นไป เพราะคนในวัยนี้มักมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันได้ง่าย
3.คลายเครียดแบบทันทีทันใด
ถ้าคุณเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ความเครียดสามารถฆ่าคนได้” มาบ้าง จงแน่ใจเถอะว่าคำกล่าวนี้เป็นเรื่องจริง เพราะความเครียดมักเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการเจ็บ ป่วยทางกายของมนุษย์เรา แต่เราก็มีวิธีการอันหลากหลายที่ช่วยลดระดับความเครียดให้กับตัวเองได้ ซึ่งวิธีการต่อไปนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างดีและรวดเร็ว
-หลีกเลี่ยงความคิดในแง่ลบ เพราะความคิดและความรู้สึกในด้านร้ายสามารถติดต่อถึงกันได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงคนที่พูดและมีพฤติกรรมในด้านลบ จงคบเพื่อนที่มองโลกในแง่ดีและเป็นกำลังใจให้แก่กัน
-มอบรางวัลให้กับตัวเองด้วยการทำสมาธิและทบทวนคุณค่าภายใน โดยหาช่วงเวลาเงียบสงบในแต่ละวัน ทบทวนถึงความสงบภายใน รวมทั้งความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจเราเอง
-มีความสุขกับการหายใจเข้า-ออกลึกๆ ซึ่งจะทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย โดยให้หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกช้าๆ ติดต่อกันนาน 10 นาที โดยทำ 3 ครั้งต่อวัน
4.หายใจสบายๆ ให้เต็มปอด
คนทั่วไปมักใช้เวลาส่วนใหญ่ทำกิจกรรมในอาคาร จึงเสี่ยงต่อการได้รับมลพิษทางอากาศในที่ร่มมากกว่ากลางแจ้ง เรามีวิธีง่ายๆ ในการขจัดมลพิษในอาคาร อันเป็นสาเหตุของอาการภูมิแพ้และหอบหืดดังนี้
-อย่าเลี้ยงสัตว์ในบ้าน และทำความสะอาดบ้านเพื่อกำจัดขนและรังแคจากสัตว์เสมอ
-เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์หนังแทนเฟอร์นิเจอร์ผ้าเพื่อป้องกันไรฝุ่น
-เลิกใช้พรมปูพื้นและวัสดุตกแต่งที่ทำจากผ้า
-ปัดฝุ่นข้าวของเครื่องใช้และพื้นผิวต่างๆ เป็นประจำทุกสัปดาห์
-เปิดหน้าต่างเพื่อช่วยให้อากาศหมุนเวียนและถ่ายเทได้ดีขึ้น
-ใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงในห้องนอน
-ทำความสะอาดห้องน้ำและห้องที่มีความชื้นสูงอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันเชื้อรา
-ไม่ควรสูบบุหรี่ในบ้าน เพราะจะเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการภูมิแพ้